พระสูตรที่ 11
“สิ่งที่ขนานนามว่าเอกภพนี้ ปรากฏขึ้นเสมือนดั่งมายากล หรือ ภาพยนตร์ พึงพิศดูเยี่ยงนี้ ย่อมบังเกิดสุขล้ำ
โลกทั้งมวลนี้เป็นเช่นละคร ฉะนั้น อย่าได้เคร่งเครียดมันเกินเหตุ ความเคร่งเครียดจะลุกไล่เธอให้อับจนเธอจะตกถลำสู่ความยุ่งยาก จงอย่าคร่ำเคร่งจริงจังกับมัน ไม่มีอะไรหรอกพี่จริงจัง โลกทั้งมวลนี้เป็นเพียงละครเท่านั้น
หากเธอสามารถมองโลกทั้งมวลเป็นเช่นละคร เธอย่อมหวนคืนสู่จิตสำนึกดั้งเดิมอีกครั้ง เหตุที่ธุลีมาทับถมเพราะเธอสุดแสนจะเคร่งเครียด ความเคร่งเครียดก่อให้เกิดปัญหา และเราจริงจังกระทั่งว่าแม้ในระหว่างที่ชมละคร เราก็สั่งสมธุลีไว้ ลองไปภาพยนตร์แล้วจับตามองผู้ชมสิ ไม่ต้องมองจอภาพ ลืมภาพบนจอไปเสีย ไม่ต้องมองจอภาพ ให้คอยจับจ้องเฉพาะผู้ชมในโรงเท่านั้น มีบางคนกำลังสะอึกสะอื้น น้ำตาร่วงพรู บางคนกำลังหัวเราะร่า บ้างก็มีอาการกระสันรัญจวน ให้คอยจับจ้องเฉพาะบุคคลเท่านั้น พวกเขากำลังทำสิ่งใดอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านั้น ที่สำคัญคือบนจอภาพหามีสิ่งใดไม่ มีเพียงภาพ ภาพของแสงและเงาล้วนๆ จอภาพนั้นว่างเปล่า....